นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยว่า จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “เจิมปากา” และหย่อมความกดอากาศต่ำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดฝนตกต่อเนื่องและตกหนักในบางแห่ง จนทำให้มีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตรรวม 7 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เลย ร้อยเอ็ด ตาก ปราจีนบุรี ชุมพร และตรัง ปัจจุบันมีพื้นที่ที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้วจำนวน 6 จังหวัด คงเหลือพื้นที่จังหวัดตาก เพียงจังหวัดเดียวที่ยังคงมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งในบางจุด แม้ว่าสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเมยจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังมีปริมาณน้ำจากลำห้วยต่างๆ ไหลล้นข้ามถนนบางแห่งในเขตเทศบาลนครแม่สอด ปัจจุบันยังคงมีฝนตกปานกลางถึงฝนตกหนักในเขตอำเภอเมืองตาก และอำเภอแม่สอด ซึ่งอาจทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงแม่น้ำและลำห้วยเป็นปริมาณมาก
ทั้งนี้ ส่วนพื้นที่ที่ยังต้องเฝ้าระวังได้แก่ เขตเทศบาลนครแม่สอดและเขตเทศบาลตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด, บ้านมอเกอร์ไทย หมู่ที่ 1 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ, หมู่ที่ 4 บ้านวังผา ตำบลแม่จะเรา อำเภอแม่ระมาด และบ้านแม่สลิดหลวง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง
สำหรับการช่วยเหลือ กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานตากและส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 4 ได้เข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บริเวณถนนอินทรคีรี ชุมชนประชารักษ์ ตำบลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำระบายลงสู่ลำห้วยต่างๆ พร้อมประสานไปยังหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งชุมชนในพื้นที่ ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศจากหน่วยงานราชการตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน ได้ตลอดเวลา
