กลุ่มบริษัท อีสเทิร์นเฮิร์บ และเวชกรโอสถ เดินหน้านำผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) ระดมแจกช่วยบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย ศูนย์พักคอย รพ.สนาม

กลุ่มบริษัท อีสเทิร์นเฮิร์บ และเวชกรโอสถ เดินหน้านำผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) ระดมแจกช่วยบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย ศูนย์พักคอย รพ.สนาม

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

กลุ่มบริษัท อีสเทิร์นเฮิร์บ และเวชกรโอสถ เดินหน้านำผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) ระดมแจกช่วยบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย ศูนย์พักคอย รพ.สนาม ชูเคล็ดลับยับยั้งเชื้อโควิค-19 สูงกว่าฟ้าทะลายโจร 2,200 เท่า พร้อมเผยที่มาสูตรยาตักศิลาสมุนไพรดั้งเดิมในคัมภีร์แพทย์ศาสตร์ฉบับหลวงโบราณ

นายภัทร หนังสือ ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทิร์นเฮิร์บ และเวชกรโอสถ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) พร้อมแพทย์หญิงเกษกมล เปลี่ยนสมัย นางพัชรวลัย รัตนศิริวัฒนา และทีมงาน ลงพื้นที่นำยาสมุนไพรเคอร่า จำนวน 400 กระปุก มามอบให้กับทางศูนย์พักคอยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแหลมฟ้าผ่า จ.สมุทรปราการ โดยมีนายณรงค์ สุกใส ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมทีมงานบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้รับมอบ เพื่อใช้กับบุคลากรทางการแพทย์ในศูนย์พักคอยและผู้ป่วย Home Isolation เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการยับยั้งอาการของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป

โดยนายภัทร เปิดเผยว่า สำหรับยาเคอร่าที่นำมามอบให้ในครั้งนี้เป็นยาตำรับสมุนไพร ที่ใช้สมุนไพรที่เป็นส่วนผสมหลักเก้าชนิด ซึ่งได้สูตรยาตั้งแต่ดั้งเดิมเป็นคัมภีร์ตักศิลา อยู่ในคัมภีร์แพทย์ศาสตร์ฉบับหลวง พิมพ์ตั้งแต่ปี 2440 ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยได้นำตำรับยาในแพทย์ศาสตร์ฉบับหลวง ก็คือเดิม ชื่อยาครอบไข้ตักศิลา ในคัมภีร์ตักศิลา ตัวยาครอบไข้ตักศิลานี้ ทางบริษัทฯ ได้นำมาพัฒนา ปรับเปลี่ยนตัวยาให้เหมาะสมกับการจัดหาตัวยาในปัจจุบัน รวมทั้งพัฒนากรรมวิธีการผลิต โดยใช้ความร้อนและความเย็นในการสกัดและเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยาให้สูงขึ้นจนมีผลในการยับยั้งไวรัสได้สำเร็จ

ทั้งนี้ จากผลการวิจัยในห้องทดลองของห้องปฏิบัติการชีวเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยืนยันถึงผลการวิจัยทดลองชัดเจนว่า ยาสมุนไพรเคอร่า มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์กลไกหลักในการขยายตัวของไวรัส ที่ชื่อ main protease (เมนโปรติเอส) ที่ไวรัสโควิด-19 ใช้ในการขยายตัวเพิ่มจํานวนในร่างกายซึ่ง  มากกว่าหรือสูงกว่าฟ้าทะลายโจร 2,200 เท่า ซึ่งมีประสิทธิภาพการยับยั้งเอนไซม์ main protease ที่สูงกว่าฟ้าทะลายโจร และสูงกว่ายาแผนปัจจุบันหลายชนิดที่เป็นยาต้านไวรัส  ซึ่งที่ผ่านมาโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่ทราบกันว่าสามารถขยายตัวเร็วกว่าสายพันธุ์เบต้าเป็นพันเท่า เป็นการขยายตัวเร็วมากจึงต้องทำการศึกษาวิจัยตัวมาสกัดกั้นการขยายตัวของไวรัสไม่ให้ขยายตัวในร่างกายเร็วเกินไป จนทำให้เกิดภาวะที่เป็นอันตรายที่ลุกลามลงปอดจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ออกซิเจน ซึ่งค่อนข้างเป็นอันตรายและทำให้เกิดการสูญเสียที่เกิดขึ้น ยาเคอร่า จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาผู้ป่วย และป้องการการสียชีวิตที่เกิดขึ้นและยืนยันว่ายาชนิดดังกล่าวสามารถกินยาต่อเนื่องที่ไม่ผลข้างเคียงด้วยโดยเฉพาะโรคไต ที่มีความกังวลใจเรื่องของการทานยาสมุนไพรด้วย

“การกินยาสมุนไพรของเราต้องกัดให้แตกซึ่งยาจะกระจายไปจับในลำคอซึ่งจะสกัดเขื้อโรคที่จะลงสู่ปอดเป็นด่านแรกของการแพร่กระจายของไวรัส โดย บุคลากรทางการแพทย์ ที่เสี่ยง สามารถกินเพื่อสกัดการติดเชื้อได้เลยวันละ2ครั้ง เช้าก่อนเข้าพื้นที่ปฎิบัติงานและก่อนนอนครั้งละ2เม็ดเพราะไม่รู้จะติดเชื้อเมื่อไหร่ตอนนี้มีการทดสอบพบว่า คนที่กินยาสามารถยับยั้งการติดเชื้อได้ ค่อนข้างดี ยืนยันว่ากินต่อเนื่องโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ด้วย” นายภัทร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม การ แจกจ่ายยาให้กับศูนย์พักคอยในครั้งนี้ ตนเห็นว่าองค์กรของตนเป็นองค์กรเอกชนเล็กๆ ที่พยายามช่วยเหลือสังคมตามกำลังที่พอจะทำได้และพยายามที่จะช่วยหน่วยงานต่างๆ เพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยกับผู้ป่วยและพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะคิดว่า ในครอบครัวที่อยู่กันหลายคน แล้วเกิดการสูญเสียในอนาคตจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมต่างๆ ตามมา เด็กจะกำพร้า จึงพยายามคิดค้นตัวยาที่จะหยุดการสูญเสีย จึงได้นำยาบางส่วนไปแจกให้ รพ สนาม และศูนย์พักคอยตามกำลังที่พอจะทำได้

นายภัทรกล่าวด้วยว่าในส่วนที่มีข่าวว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) มิได้มีสรรพคุณหรือมีฤทธิ์ในการช่วยรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และไม่มีผลวิจัยที่ได้รับยอมรับรวมถึงที่มีข่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งห้ามจำหน่ายยาเคอร่า นั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้ออกมาชี้แจ้งให้ประชาชนรับทราบว่า ไม่เคยโฆษณาชวนเชื่อ และเกินจริงว่าสามารถรักษาอาการป่วยโควิดได้ แต่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่ได้ทานยาเคอร่า ที่เรานำเอาไปให้ ทานแล้วหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในรพ.สนามในหลายพื้นที่จากนั้นก็มีการบอกต่อๆกันไป ทำให้ปัจจุบันนี้ มีผู้สนใจและสั่งซื้อยามาในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก โดยผู้ที่สนใจยาสมุนไพร เคอร่า สามารถแอดไลน์ @herbline https://shop.line.me/@herbline เข้ามาสั่งซื้อได้โดยตรงที่เดียวเท่านั้นและยืนยันว่าไม่ได้มีตัวแทนจำหน่ายเด็ดขาด

จากนั้น นั้นนายภัทร พร้อมทีมงานได้เดินทางไปยัง สำนักงานเขตคันนายาว เพื่อไปมอบยาสมุนไพรเคอร่า จำนวน 400 กระปุก โดย มีนายชูชาติ พุ่มน้อย ผอ.เขตคันนายาว พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ จิตอาสา 904 สังกัดตำรวจนครบาล พร้อมทีมงานเป็นผู้รับมอบ เพื่อมอบให้กับประชาชนผู้ติดเชื้อที่รอการช่วยเหลือต่อไป

นอกจากนั้น ยังมอบยาสมุนไพรเคอร่ากับ พ.ต.อ.ธีรยุทธ ใหม่แปง ผกก.สน.บึงกุ่ม และ พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สน.บางชัน เพื่อนำไปมอบต่อให้กับเจ้าหน้าที่ส่วนหน้าของ สน.บึงกุ่ม จำนวน 100 กระปุก และ สน.บางชันจำนวน 100 กระปุกเพื่อแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงต่อไปด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง