“เฉลิมชัย” สั่งรับมือผลไม้ฤดูการผลิตปี 2565 ล่วงหน้า มอบ “อลงกรณ์” ลุยเหนือติดตามความคืบหน้าตรวจด่านเชียงแสน-เชียงของขยายโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีน

“เฉลิมชัย” สั่งรับมือผลไม้ฤดูการผลิตปี 2565 ล่วงหน้า มอบ “อลงกรณ์” ลุยเหนือติดตามความคืบหน้าตรวจด่านเชียงแสน-เชียงของขยายโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีน

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

“เฉลิมชัย” สั่งรับมือผลไม้ฤดูการผลิตปี 2565 ล่วงหน้า มอบ “อลงกรณ์” ลุยเหนือติดตามความคืบหน้าตรวจด่านเชียงแสน-เชียงของขยายโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดมาตรการที่เข้มงวดโดยเฉพาะด่านนำเข้าจีน และส่งผลต่อการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรผลไม้ของไทย ล่าสุดนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการและบริหารการจัดการผลไม้ (Fruit Board)ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรและภาคการเกษตรของไทย

ทั้งนีได้มอบหมายให้ตนเองในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ ลงพื้นที่ภาคเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย ระหว่างวันที่ 11-15 ม.ค. 65 เพื่อติดตามความคืบหน้าในหลายด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการผลไม้ของภาคเหนือ ฤดูการผลิตปี 2565 (ลำไย) ความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) ภาคเหนือ การขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center :AIC) จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมด่านเชียงของและด่านเชียงแสนในการส่งออกผลไม้และสินค้าเกษตรทางบกและทางเรือลำน้ำโขง โดยเฉพาะมาตรการ SPS และโควิดฟรี (Covid Free) และแนวทางแก้ไขปัญหาการขนส่งผ่านด่านบ่อเตนและด่านโมฮ่าน ตลอดจนการประชุมหารือกับวิสาหกิจชุมชนเพื่อพัฒนากาแฟอาราบิก้า (Arabica) ตลอดห่วงโซอุปทาน การบริหารจัดการน้ำของโครงการชลประทานภาคเหนือตอนบนและการขับเคลื่อนโครงการโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนภาคเหนือเพื่อพัฒนาการเกษตรในเมืองและส่งเสริมเพิ่มพื่นที่สีเขียวเพื่อแก้ปัญหา pm.2.5 และลดก๊าซเรือนกระจกตอบโจทย์ Climate Change ตามแนวทาง COP26.

สำหรับข้อมูลการส่งออกนำเข้าผักผลไม้โดยรวมระหว่างไทยกับจีน ปรากฎว่าไทยได้เปรียบดุลการค้าจีนกว่า 3 เท่าตัว โดยในปี 2563 ไทยส่งออกผลไม้ไปจีน 1.02 แสนล้านบาท ไทยนำเข้าผลไม้จากจีน 30,735 ล้านบาท ไทยได้เปรียบจีน 7.2 หมื่นล้าน ครองตลาดจีนคิดเป็นสัดส่วนตลาด (Market Share) เป็นอันดับ 1 สูงถึง 45% ขณะที่เพียง 10 เดือนของปี 2564 (เดือน ม.ค-ต.ค2564) ไทยส่งออกผลไม้ไปจีนกว่า 2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.48 แสนล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การนำเข้าส่งออกผักในปี 2563 จีนส่งออกออกผักมาไทย 8 พันล้าน ไทยส่งออกผักสดผักแข็งผักแห้งและมัน หัวมัน 30,000 ล้าน (รหัส07) แต่ถ้าแยกผักออกมาไทยส่งออกผักไปจีน 1 พันล้านบาท เสียดุลการค้าจีนด้านผัก 7 พันล้านในขณะที่ไทยได้เปรียบการส่งออกผลไม้ไปจีนกว่า 7 หมื่นล้าน

///

บทความที่เกี่ยวข้อง