ไฮเออร์ (ประเทศไทย) ระเบิดศึกหน้าร้อน ทุ่มงบ 200 ล้านบาทลุยตลาดเครื่องปรับมอากาศ ย้ำผู้นำนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก โชว์นวัตกรรมเด่น “เย็นเร็ว ทนทาน ฟอกอากาศได้

ไฮเออร์ (ประเทศไทย) ระเบิดศึกหน้าร้อน ทุ่มงบ 200 ล้านบาท ลุยตลาดเครื่องปรับอากาศ ย้ำผู้นำนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก โชว์นวัตกรรมเด่น “เย็นเร็ว ทนทาน ฟอกอากาศได้”

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

นายปิยะศักดิ์ ศรีบัว ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศบ้านและเชิงพาณิชย์ บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ในฐานะที่ “ไฮเออร์” เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเรื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ครองใจผู้บริโภคเป็นอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 12 ปีซ้อน ทำให้บริษัทมุ่งมั่นในการทำตลาด สร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เพื่อรับกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไป เทคโนโลยีใหม่เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตมากขึ้น ที่สำคัญยังเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยไฮเออร์ ประเดิมใช้กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการทำตลาด จึงออกสินค้าเครื่องปรับอากาศ 2 รุ่นใหม่ประกอบด้วยรุ่น VNR (W) Series และ รุ่น VTRA Series เสริมทัพหน้าร้อน รวมถึงรุ่น VIP Series ที่ยังคงเป็นรุ่นที่เน้นทำการตลาดเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในกลุ่มไฮเอนด์”

สำหรับไฮไลต์ของเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น VNR (W) Series มีเทคโนโลยี Self-Cleaning ฟังก์ชั่นการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ เพื่อขจัดคราบสิ่งสกปรก ลดภาระในส่วนของการล้างเครื่องปรับอากาศได้ สะดวกและง่ายต่อการใช้งานด้วยปลายนิ้วสัมผัส และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Hyper PCB ที่ช่วยควบคุมความผันผวนของแรงไฟฟ้า สร้างความมั่นใจได้ว่าเครื่องปรับอากาศไฮเออร์จะสามารถทำความเย็นได้ด้วยอุณหภูมิคงที่ แม้ในสภาพแวดล้อมและอากาศที่เลวร้าย และที่สำคัญยังมีโหมดควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone ด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi และ รุ่น VTRA Series มีฟังก์ชั่นระบบ Cold Expansion Technology และ Turbo Mode สามารถส่งลมเย็นได้ไกล และเร่งความเย็นได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น 47% รู้สึกได้ถึงความเย็นสดชื่นรวดเร็ว และยังมี Eco Energy Saving Mode ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานอีกด้วย และในรุ่นนี้ก็ยังมีโหมด Self-Cleaning อีกเช่นกัน ที่ช่วยทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและปัญหาในการล้างเครื่องปรับอากาศได้ดีอีกด้วย

ส่วนอีกรุ่นคือรุ่น VIP Series ที่เน้นกลุ่มลูกค้าพรีเมียมโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูดูมีระดับสไตล์ลักชัวรี่ (Luxury) นำมาด้วยเทคโนโลยีขั้นสุด Super IFD Filter นวัตกรรมแอร์ฟอกอากาศที่เหนือชั้นกว่า ทำให้ประสิทธิภาพการกรองฝุ่นพิษ PM 2.5 ดียิ่งขึ้น ด้วยช่องระบายอากาศกว่า 6,816 ช่อง ทำให้มีพื้นที่ในการดูดซับฝุ่นใหญ่เท่ากับ 8.78 ตารางเซนติเมตร และมาพร้อม Smart Air Quality Sensor ที่ไวต่อการตรวจจับฝุ่นละออง สามารถบอกถึงค่า PM2.5 ในอากาศและคุณภาพของอากาศได้อย่างแม่นยำ รวมถึงฟังก์ชั่น Self-Cleaning ฟังก์ชั่นการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ เพื่อขจัดคราบสิ่งสกปรก สะดวกและง่ายต่อการใช้งานด้วยปลายนิ้วสัมผัส และที่สำคัญยังมีโหมดควบคุมการทำงานผ่าน Smart Phone ด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi อีกด้วย

นอกจากนั้นบริษัทได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 200 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดครบวงจรแบบ 360 องศา ทั้งสื่อออฟไลน์ เช่น โฆษณา สื่อนอกบ้าน สื่อเคลื่อนที่ขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส และสื่อออนไลน์ พร้อมทั้ง ยังดึง “บอย” ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ไฮเออร์ที่ร่วมงานกับแบรนด์ไฮเออร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 มาลุยสร้างสรรค์สื่อโฆษณา (TVC) ชุดใหม่ ช่วยสื่อสารเกี่ยวกับ 3 ปัญหาหรือ Pain Point ของผู้บริโภคในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่ดีจะต้องเย็นเร็ว ทนทาน และฟอกอากาศได้ รวมถึงการตอกย้ำการสร้างแบรนด์ และครองใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง