"รฎาวัญ"เสนอแก้กฎหมายช่วยแพทย์แผนไทย

“รฎาวัญ”เสนอแก้กฎหมายช่วยแพทย์แผนไทย

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

“รฎาวัญ”พบจุดอ่อนแพทย์แผนไทยเกิดจากกฎหมายหลายฉบับ เตรียมเสนอออกกฎหมายใหม่และแก้ไขฉบับเดิมที่บังคับใช้ครบ 5 ปีแล้ว รวมทั้งจะแก้ไขให้แพทย์แผนไทยเรียนจบแล้วมีงานทำ

นางรฏาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการประทรวงแรงงาน ในฐานะประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เปิดเผยว่า จากการนำคณะองค์กรฯประกอบด้วย ดร.รัตนจันทร์ ศีลสัมฤทธิ์ พลตรี ดร.ถิรเดช ทรัพย์เขื่อนขันธ์ และนายวุฒิภัทร แสงทอง เข้าพบ พลเรือเอกชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย ภายในกระทรวงสาธารณสุข ทำให้ได้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคการพัฒนา ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ที่สร้างความหนักใจให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยมานานหลายปีแล้วนั้นเกิดจากข้อบัญญัติในกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ที่สำคัญคือพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยพ.ศ. 2556 พระราชบัญญัติส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 ฯลฯ ที่ล่วงละเมิด ปิดกั้นและทำลาย ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและวิชาชีพการแพทย์แผนไทยการแพทย์พื้นบ้านทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ องค์กรปัญญาการแพทย์แผนไทยกำลังดำเนินการยกร่างกฏหมายใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญดังกล่าวโดยจะเชิญชวนผู้ประกอบการแพทย์แผนไทยและประชาชนทั่วไปที่เห็นคุณค่าและหวงแหนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยซึ่งเป็นมรดกของชาติไทยร่วมกันลงชื่ออย่างน้อย 10,000 รายชื่อเพื่อเสนอกฎหมายใหม่ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่จะต้องแก้ไขอีกคือการมีงานทำหลังจากเรียนจบการแพทย์แผนไทยแล้วซึ่งจะต้องปรับปรุงแก้ไข หลายด้านอย่างครบวงจร รวมทั้งความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ระดับสูงของแพทย์แผนไทยยังมีข้อจำกัดมากมายที่ปิดกั้นโอกาสการเติบโตในชีวิตรับราชการ

ทางด้านพลเรือเอกชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทยกล่าวว่า มีกฎหมายหลายฉบับที่ควรจะแก้ไข เนื่องจากมีการประกาศใช้มานานครบ5ปีแล้วซึ่งเป็นเวลาที่สมควรให้มีการทบทวนปรับปรุงแก้ไขพัฒนาได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2556 ทางสภาการแพทย์แผนไทยได้รวบรวมประเด็นปัญหาไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ การที่คุณรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ ราคาองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยด้วยกับท่านแก้ไขกฎหมายนั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะต้องร่วมกันทุกฝ่ายให้เป็นพลังจึงจะสำเร็จได้ กุศลจิตครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ต่อภูมิปัญญาไทยซึ่งเป็นมรดกของชาติไทย และจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติได้เป็นอย่างดี

ดร.รัตนจันทร์ฯ กล่าวว่า เห็นว่ามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องขัดกันเองหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายก็ขัดกันเองจึงเกิดเป็นปัญหาอุปสรรค จึงจำเป็นจะต้องมีองค์กรที่เป็นตัวกลางประสานความรู้ความเข้าใจการปฎิบัติระหว่างทุกฝ่ายทุกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและเป็นประโยชน์ต่อการแพทย์แผนไทย

พลตรี ดร.ถิรเดชฯ กล่าวว่า การผลิตนักเรียนการแพทย์แผนไทยของสถาบันการศึกษาการแพทย์แผนไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันมีจุดอ่อนคือยังขาดสถานพยาบาลโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยเพื่อเป็นสถานที่ฝึกงานเวชปฏิบัติ ให้มีความเชี่ยวชาญมีทักษะ เมื่อเรียนจบแล้วได้ปฎิบัติจริงก็สามารถทำได้ที่ดูแลรักษาประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายวุฒิภัทร แสงทอง กล่าวว่า การผลักดันเพื่อแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการแพทย์แผนไทยนั้นเกี่ยวข้องกับรัฐบาลและรัฐสภาจึงเป็นเรื่องดีที่คุณรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการเมืองยื่นมือเข้ามาช่วยประสานงานและมั่นใจว่าการผลักดันเพื่อแก้ไขกฎหมายต่างๆจะสำเร็จได้และจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ

บทความที่เกี่ยวข้อง