รมช.ประภัตร สั่งเดินหน้าขับเคลื่อน"Sandbox ปศุสัตว"นำร่องชนิดส่งเสริมโคเนื้อ 5 จังหวัดตามแนวชายแดน

รมช.ประภัตร สั่งเดินหน้าขับเคลื่อน”Sandbox ปศุสัตว”นำร่องชนิดส่งเสริมโคเนื้อ 5 จังหวัดตามแนวชายแดน

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

รมช.ประภัตร สั่งเดินหน้าขับเคลื่อน”Sandbox ปศุสัตว”นำร่องชนิดส่งเสริมโคเนื้อ 5 จังหวัดตามแนวชายแดน

นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าล่าสุดได้สั่งการให้กรมปศุตว์เร่งขับเคลื่อนโครงการ Sandbox ปศุสัตว์ (เขตพื้นที่ควบคุมพิเศษเพื่อนำร่องส่งเสริมการผลิตและส่งออกสินค้าปศุสัตว์)ตามที่พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาความเป็นไปได้และแนวทางการขับเคลื่อน Sandbox ปศุสัตว์ โดยมีการนำร่องส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อเพื่อจำหน่ายไปยังประเทศลาวและจีนเพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการด้านปศุสัตว์ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นการเร่งด่วน

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางกรมปศุสัตว์จะเร่งดำเนินการในการกำหนดมาตรฐานต่างๆ ขึ้นมาเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และตามความต้องการประเทศคู่ค้า โดยมีองค์ประกอบสำคัญในการจัดทำ Sandbox ปศุสัตว์ ประกอบด้วย 3 โซนพื้นที่ควบคุม (โซนปลอดโรค (คอกกักเพื่อการส่งออก) โซนคุมเข้ม และโซนป้องกัน) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่การผลิต เช่น ภาคเอกชน เกษตรกร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคการเงิน การค้าขายระหว่างประเทศ ภาคการขนส่ง ฯลฯ

สำหรับ พื้นที่นำร่องที่จะมีการดำเนินการใน 5 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย หนองคาย นครพนม/มุกดาหาร พื้นที่ปศุสัตว์เขต 2 และพื้นที่ปศุสัตว์เขต 8,9 พร้อมมาตรการเตรียมผลักดันสู่ Smart Port เชื่อมโยงการค้าขายปศุสัตว์ไทย-ลาว-จีนโดยมีการการเพิ่มปริมาณโคเนื้อและยกระดับสายเลือดโคเนื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพผลผลิตในกลุ่มผลิตโคต้นน้ำ ส่งเสริมเพื่อให้มี Central Feedlot เป็นแหล่งเรียนรู้และผลิตอาหารสัตว์คุณภาพดี ราคาเหมาะสมในการเลี้ยงสัตว์เพื่อให้มีความปลอดภัย ลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมและกำหนดแนวทางการผลิตโคขุน ทั้งการขุนระยะสั้นเพื่อผลิตเนื้อแดง สร้างรายได้ระยะสั้น และการขุนระยะยาวเพื่อผลิตเนื้อไขมันแทรกในกลุ่มผู้เลี้ยงโคขุน ส่งเสริม ผลักดันการรับรองมาตรฐานคอกกักเพื่อการส่งออกให้กับภาคเอกชนที่มีความพร้อม

นอกจากนั้นยังมีการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนภายใต้ระยะเวลาการปล่อยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมให้กับเกษตรกร องค์กรเกษตรกร ผู้ประกอบการ เพื่อส่งเสริม พัฒนา และต่อยอดการผลิตตลอดห่วงโซ่ ส่งเสริมการผลิตโคเนื้อทั้งระบบตามบทบาทภารกิจ ตั้งแต่การขึ้นทะเบียน การทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ (NID, RFID) การใช้ Platform ในการซื้อ-ขายโคเนื้อ การควบคุมการเคลื่อนย้ายและการขนส่ง การฉีดวัคซีนควบคุมป้องกันโรค (FMD, LSD) การรับรองฟาร์มปลอดโรค (FMD) การเฝ้าระวังการใช้สารเร่งเนื้อแดง การตรวจรับรองมาตรฐาน GFM, GAP

“การดำเนินการขับเคลื่อนโครงการ Sandbox ปศุสัตว์ ในครั้งนี้ถือเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางรายได้ สร้างความมั่นคง ยั่งยืนให้กับเกษตรกร และสร้างโอกาสทางการตลาดแก่อุตสาหกรรมโคเนื้อของประเทศไทยอย่างมั่นคงในอนาคต”นายประภัตรกล่าว

/////

บทความที่เกี่ยวข้อง