กรมชลประทานระดมเครื่องจักร เครื่องมือ กำจัดผักตบชวาในแม่น้ำสายหลักอย่างต่อเนื่อง

กรมชลประทานระดมเครื่องจักร เครื่องมือ กำจัดผักตบชวาในแม่น้ำสายหลักอย่างต่อเนื่อง

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

กรมชลประทาน ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ กำจัดผักตบชวาในแม่น้ำสายหลักอย่างต่อเนื่อง ให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนจะมา เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน และลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

24 เม.ย. 64 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท หลังจากพบว่ามีผักตบชวาไหลลงมาสะสมบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยากว่า 40,000 ตัน และคาดว่าจะไหลลงมาเพิ่มอีกอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายประพิศ กล่าวว่า กรมชลประทาน ได้ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ ลงไปเสริมเพิ่มเติมจากเดิม อาทิ รถขุดไฮดรอลิคแบบแขนยาว 3 ชุด รถขุดไฮดรอลิคแบบลงโป๊ะ 6 ชุด เรือดันวัชพืช 2 ลำ และรถบรรทุกเทท้าย 2 คัน เร่งเข้าไปกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันกำจัดวัชพืชไปได้แล้วกว่า 3,700 ตัน ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานชลประทานที่ 12 ได้กำหนดแผนงานกำจัดวัชพืชปี 2564 (ม.ค. – เม.ย. 64) จำนวน 4 โครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีการดำเนินงานกำจัดวัชพืชปี 2564 (นอกแผน) อีก 9 โครงการ รวมระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่า 110 กิโลเมตร และคาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้

นอกจากนี้ ในแม่น้ำสายหลักบริเวณภาคกลาง กรมชลประทาน ได้เข้าดำเนินการจัดเก็บกำจัดวัชพืชและผักตบชวาอย่างเร่งด่วน อาทิ ที่ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี พบวัชพืชสะสมกว่า 5,000 ตัน บริเวณแม่น้ำน้อยช่วงสะพานท่าช้าง ได้ส่งรถแบ๊คโฮลงโป๊ะเข้ากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำในพื้นที่ดังกล่าวไปแล้วกว่า 4,000 ตัน ที่ ต.บางน้ำเปรี้ยว อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้ส่งส่งรถแบ๊คโฮลงโป๊ะเข้ากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณคลองขวาง คลองเปร็ง และคลองชวดพร้าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ อีกทั้งช่วยให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน เมษายน 2564

ขณะเดียวกัน ยังได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกล และสำนักงานชลประทานทุกแห่ง ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าในพื้นที่พร้อมทั้งกำชับให้เร่งดำเนินการเก็บวัชพืชโดยเฉพาะผักตบชวาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูฝน และสนับสนุนเพื่อการผลิตน้ำประปาให้กับประชาชน อีกทั้งยังช่วยระบายน้ำเพื่อผลักดันน้ำเค็มที่กำลังรุกขึ้นสูงในขณะนี้อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง