กรมชลประทานให้เจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 คุมเข้มการระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19

กรมชลประทานให้เจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 คุมเข้มการระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

กรมชลประทานให้เจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 คุมเข้มการระบาดของเชี้อไวรัสโควิค19หลังปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งทุกหน่วยงานในสังกัดเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารจัดการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) กรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์และข้อสั่งการในการควบคุมโรค ผ่านทางระบบ Video Conference ไปยังหน่วยงานส่วนกลางและสำนักงานชลประทานที่ 1-17 ทั่วประเทศ โดยมี นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา รักษาราชการแทนรองอธิบดีฝ่ายบริหาร นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ รักษาราชการแทนรองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง นายวัชระ เสือดี รักษาการในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) และนายณัฐพล วุฒิจันทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เลขาศูนย์ฯ พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนัก กอง เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ นายประพิศกล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่าหรือโควิด-19 ทำให้ปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 37,453 คน และอาจมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น นั้นล่าสุดนายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฝ้าระวังพร้อมวางมาตรการและแนวทางการป้องกันอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในส่วนกรมชลประทาน ตนได้สั่งการไปยังหน่วยงานส่วนกลางและโครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินการตามแผนป้องกันเหตุและการเผชิญเหตุให้ครบทุกมิติ เป็นไปตามมาตรการ DMHTTA ที่กำหนด รวมทั้งกำชับและเน้นย้ำบุคลากรให้ติดตามข้อมูลอย่างรอบด้าน และตรวจสอบคัดกรองบุคลากรอย่างเคร่งครัด หากพบผู้ติดเชื้อให้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนดไว้และเข้ารับการรักษาทันที ในกรณีที่มีความเสี่ยงสูงให้รีบตรวจหาเชื้อและพิจารณากักตัวหรือปฏิบัติงานจากที่บ้าน (Work From Home) อย่างน้อย 14 วัน

นอกจากนั้น ยังขอให้มีการซักซ้อมหรือเตรียมการเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้แต่ละสำนัก กอง จัดทำแผนและมาตรการในการปฏิบัติงานจากที่บ้านหน่วยงานละไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 หรือพิจารณาตามความเหมาะสมเต็มขีดความสามารถของแต่ละหน่วยงาน โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการปฏิบัติงานแทน เพื่อมิให้กระทบต่อการปฏิบัติงานตามภารกิจหลักขององค์กรและการบริการประชาชน สำหรับหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ขอให้พิจารณาปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องตามคำสั่งของจังหวัดและสถานการณ์

ส่วนการจัดฝึกอบรม ประชุม รวมทั้งการสัมมนาต่างๆ ให้ปรับรูปแบบการดำเนินกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์แทน พร้อมขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ให้งดร่วมกิจกรรม อาทิ งานเลี้ยงสังสรรค์ และหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีคนแออัด รวมทั้งเน้นย้ำให้บุคลากรจัดทำ Timeline ของตนเองให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายและรวดเร็วหากเผชิญเหตุ นอกจากนี้ยังขอให้ติดตามสถานการณ์และประกาศ ตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) และคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัดต่างๆ รวมทั้งประสานข้อมูลกับศูนย์โควิดกรมชลประทาน อย่างต่อเนื่องด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง