เกษตรฯ จับมือกองทัพบก เปิดปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น ประจำปี 2564 พร้อมสู้ภัยแล้ง

เกษตรฯ จับมือกองทัพบก เปิดปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น ประจำปี 2564 พร้อมสู้ภัยแล้ง

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการแถลงข่าวปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่นภายใต้ความร่วมมือกับกองทัพบก ประจำปี 2564 พร้อมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานในพื้นที่ และมอบนโยบายการดำเนินงานความร่วมมือกับกองทัพบก รวมถึงได้ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ สนามบินนครสวรรค์ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้สร้างความร่วมมือกับกองทัพบก

โดยที่ผ่านมาทางกองทัพบกมีการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการฝนหลวง ทั้งการใช้งานพื้นที่ในสนามบิน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ และการสนับสนุนกำลังพลในการปั้นเมล็ดพันธุ์พืช ในโครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศสร้างความชื้นสัมพัทธ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวง และสำหรับเครื่องบิน CASA 1 ลำ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบกนี้ จะประจำการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ณ จังหวัดนครสวรรค์ จนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้ จากนั้นจะไปประจำการที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จังหวัดลพบุรี ในวันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นลำดับต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มีแนวโน้มว่า ฤดูฝนในประเทศไทยจะมาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาฝนทิ้งช่วงอยู่ทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับพี่น้องเกษตรกร ที่ต้องเดือดร้อนกับการหาน้ำไปมาใช้ในการทำการเกษตร กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการเปิดหน่วยปฏิบัติจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อใช้ในการปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในพื้นที่ภาคกลาง 14 จังหวัด

เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และลำน้ำต่างๆ ในเขตพื้นที่ภาคกลางให้แก่เกษตรกรได้มีน้ำใช้ในการทำเกษตรกรรม ทั้งช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาภัยแล้ง และบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า

ทั้งนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้เปิดหน่วยปฏิบัติการทั้งสิ้น 11 หน่วย กระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 โดยได้กำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงให้ครอบคลุมจังหวัดเป้าหมาย 14 จังหวัดภาคกลาง พร้อมย้ำว่าจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงของโลกขณะนี้ ได้ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน ฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ส่งผลให้สภาพอากาศโดยรวมไม่เข้าเงื่อนไขในการปฏิบัติการฝนหลวง แต่ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงมีการตรวจสภาพอากาศประจำวันอย่างต่อเนื่องทุกวันเพื่อให้มีความพร้อมทุกด้าน ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง เพื่อให้มีน้ำใช้ในการทำเกษตรฤดูกาลเพาะปลูกนี้ต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง