กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก

กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก ช่วยเหลือเกษตรกรแปลงใหญ่เผือกหอม หลังมีฝนตกในพื้นที่น้อยลง

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 10 ได้ลงพื้นที่หารือกับผู้แทนเกษตรกรอำเภอบ้านหมอ เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูกเผือกหอมแปลงใหญ่ ในพื้นที่ 3 อำเภอ (อ.บ้านหมอ อ.หนองโดน และ อ.เอนพุด) จังหวัดสระบุรี ซึ่งใช้น้ำจากคลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงราง

ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงวันที่ 3 – 26 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ภาคกลางมีฝนตกน้อย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดต่ำลง จนไม่สามารถไหลเข้าคลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสักได้ แม้ว่าจะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก วันละ 1.5 ล้าน ลบ.ม. เพื่อสนับสนุนน้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค 7 สาขา และการประปาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 24 แห่ง รวมทั้งสิ้น 31 แห่ง ที่ใช้น้ำจากคลองดังกล่าว แต่ด้วยปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงไม่เพียงพอที่จะส่งไปช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ

จากปัญหาที่เกิดขึ้นได้สั่งการให้นายสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 ส่งผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปหารือร่วมกับผู้แทนเกษตรกรแปลงใหญ่เผือกหอม เพื่อชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้กับพื้นที่ดังกล่าว โดยในเบื้องต้นจะระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก ประมาณวันละ 0.5 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากวันละ 3 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 4 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เพื่อให้น้ำจากอ่างเก็บน้ำมวกเหล็กไหลมาบรรจบกับแม่น้ำป่าสักที่อำเภอวังม่วง คาดว่ามวลน้ำดังกล่าวจะเดินทางมาถึงเขื่อนพระราม 6 ในวันนี้ (27 พ.ค. 64)

จากนั้นจะใช้เขื่อนพระราม 6 ทดน้ำยกระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักให้สูงขึ้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร ให้น้ำสามารถไหลเข้าสู่คลองชัยนาท-ป่าสักทางด้านปลายคลอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำบริเวณหน้าประตูระบายน้ำเริงราง ที่อยู่ห่างจากปลายคลองประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งในวันนี้(27 พ.ค. 64)เกษตรกรได้เริ่มสูบน้ำเข้าระบบทางคลองส่งน้ำ 23 ขวาแล้ว ช่วยบรรเทาและลดผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำของแปลงใหญ่เผือกหอมได้เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน ขอให้เกษตรกรติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และให้เริ่มทำการเพาะปลูกเมื่อมีฝนตกในพื้นที่สม่ำเสมอ เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น และจากคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2564 นี้ ในพื้นที่ภาคกลางจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น จะช่วยลดผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำของเกษตรกรได้ ซึ่งจะส่งผลให้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับในระยะต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง
boonmarket

มูลนิธิรามาธิบดีฯ จัดงาน “บุญมาร์เก็ต” งานแฟร์ใจฟูทั้งผู้ให้ และผู้รับ อิ่ม ฟิน ช้อป พร้อมกระทบไหล่ศิลปินดาราดัง 1-7 พ.ค.นี้ ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต รายได้นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ รพ. รามาธิบดี