นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยว่าล่าสุดกรมชลประทานได้มีการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมระดมเครื่องจักรเครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงให้สามารถปฏิบัติงานได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ในส่วนของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำเก็บกัก 857 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 89% ของความจุอ่างฯ โดยได้มีการปรับลดการระบายน้ำเหลือเพียง 451 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อวานที่มีการระบายน้ำอยู่ที่ 550 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักบริเวณด้านท้ายเขื่อนป่าสักฯ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในจ.ลพบุรี ปัจจุบันพบว่ายังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอโคกสำโรง โดยมีระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามกรมชลประทานในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำโดยตรง ได้แก้ปัญหาและเร่งแผนบริหารจัดการน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยได้มอบหมายให้สำนักเครื่องจักรกลเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนวันที่ 10 ตุลาคม 2564 ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติงานในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ HYDRO FLOW ขนาด 42 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง รวมติดตั้งแล้วทั้งสิ้นจำนวน 2 เครื่อง และมีแผนดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีกจำนวน 3 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำช่วยเหลือและบรรเทาอุทกภัยในเขตพื้นที่ ต.หนองเต่า อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ได้ 15 ลบ.ม.ต่อวินาที และขอให้ประชาชนรับฟังข่าวสาร สถานการณ์น้ำ รวมไปถึงสภาพอากาศ จากทางหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่องหากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทานได้ตลอดเวลา
////